อะไรบ้างที่ควรเป็นหัวข้อประเด็นที่สำคัญ มีคำถามที่มีความสำคัญและเป็นสิ่งยุ่งยากในการตัดสินใจเสมอ
มาตรฐานในการจัดเตรียมรายงาน จะมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบที่สำคัญที่เกิดขึ้นหรือมีส่วนสนับสนุนโดยองค์กร หรือที่เชื่อมโยงกับกิจกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือบริการโดยความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ มาตรฐานไม่เพียงแต่สนใจในการเชื่อมโยงเชิงสาเหตุโดยตรงเท่านั้น แต่ยังไปไกลกว่านั้นด้วยว่าองค์กรมีส่วนทำให้เกิดผลกระทบผ่านห่วงโซ่อุปทานหรือไม่
การกำหนดว่าอะไรเป็นสาระสำคัญ และที่ใด ถือเป็นประเด็นหลักของการจัดทำรายงานความยั่งยืนเสมอมา
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรต้องสังเกตว่าผลลัพธ์ของ 'การกำหนดประเด็นสำคัญ' นี้จะส่งผลกระทบต่อการทำรายงานที่เหลือเป็นอย่างมาก ดังนั้นขั้นตอนนี้จำต้องเริ่มด้วยวัตถุประสงค์เพื่อระบุสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน
การทำรายงานเหมือนการไปเที่ยว คุณควรนำแต่สิ่งของที่มีความสำคัญติดตัวไปเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะเป็นภาระจะทำให้คุณเสียเวลา ทำงานช้าลง เหนื่อย ท้อ และ จะเบลอในท้ายที่สุด
โดยปกติแล้ว ในช่วงเริ่มต้น องค์กรจะมีรายการประเด็นสำคัญจำนวนมากจากการได้พบปะกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย และรวบรวมมุมมองและการสนับสนุนต่าง ในการพิจารณาหัวข้อประเด็นสำคัญ (Materiality) จึงควรต้องลดจำนวนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้เหลือเพียงไม่กี่คนที่มีความรู้ มีประสบการณ์ และมีอำนาจเชิงกลยุทธ์ขององค์กรมากที่สุด ซึ่งจำต้องผ่านการคัดกรองที่เหมาะสม
จำนวนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำหรับการกำหนดสาระสำคัญ มีน้อยกว่ารายชื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก
เครื่องมือที่ดี ที่ใช้เพื่อจัดลำดับความสำคัญของรายการสาระสำคัญและระบุเนื้อหารายงานที่เราเรียกว่าเทมเพลตสาระสำคัญ และดำเนินการได้ตรงไปตรงมามาก คือการใช้ GRI 3 เพื่อเป็นกรอบในการทำรายงาน
กำหนด 'เกณฑ์' ที่แสดงผลเนื้อหาของ Aspect โดยการตอบคำถามที่มีนัยสำคัญและให้คะแนนแต่ละแง่มุมตามนั้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักที่เข้าร่วมแต่ละรายทำเช่นนี้และรวมคะแนนของตน คะแนนที่สูงกว่ามีเนื้อหามากที่สุด
คำถาม 8 ข้อที่ต้องตั้งคำถามเมื่อทำการเลือกหัวข้อสาระสำคัญเพื่อรายงานคือ:
- สิ่งนี้ถูกกล่าวถึงแล้วว่าสำคัญโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่? (มีผู้ให้ความสนใจ)
- สิ่งนี้ถือเป็นความท้าทายในอนาคตสำหรับภาคส่วนของคุณหรือไม่? (เป็นเรื่องพื้นๆหรือเรื่องทำให้แตกต่าง)
- ได้มีการพูดคุยกันโดยเพื่อนร่วมงานแล้วหรือยัง? (มีคนเอาด้วย เห็นด้วย)
- สิ่งนี้เชื่อมโยงกับกฎหมาย ข้อบังคับ ข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องซึ่งมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อองค์กร/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของคุณหรือไม่?
- นี่เป็นโอกาสสำหรับองค์กรของคุณหรือไม่?
- สิ่งนี้มีส่วนทำให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญต่อองค์กรของคุณหรือไม่? สิ่งนี้ได้รับการยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์/ผู้เชี่ยวชาญว่าเป็นความเสี่ยงต่อความยั่งยืนหรือไม่?
- องค์กรของคุณมีความรู้เฉพาะทางหรือความสามารถเพื่อสนับสนุนความยั่งยืนในด้านนี้หรือไม่?
- สิ่งนี้มีส่วนช่วยให้การนำกลยุทธ์ของคุณไปใช้อย่างประสบความสำเร็จหรือเป็นการเสริม 'ค่านิยม' ขององค์กรของคุณหรือไม่?